ใครมองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยากยกมือขึ้น!!
ภาษาอังกฤษในทุกวันนี้มีการฝึกที่ง่ายขึ้น สำหรับคนที่ขี้เบื่อ ชอบวิธีการจำใหม่ ๆ
การจำด้วยเสียงเพลงก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ แถมยังช่วยทำให้รู้สึกเพลิดเพลินและเรียนรู้ได้นานขึ้นด้วย
สำหรับคนที่สนใจ หรือกำลังฝึกภาษา เรามี 7 เคล็ดลับ ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเสียงเพลง มาฝากกัน...

1.หาแหล่งเพลงดี ๆ
แหล่งเพลงดี ๆ หาไม่ยาก แค่ลองเสิท Youtube ก็มีเพลงดี ๆ ให้เลือกกันมากมาย แต่เราขอแนะนำว่าสำหรับคนที่ยังฟังได้ไม่คล่องนัก ลองเสิร์ชชื่อเพลงโดยใส่คีย์เวิดอย่าง Subtitle กับ Lyric ต่อท้าย การมีเนื้อเพลงให้ร้องตามทีละท่อน จะช่วยให้การหัดฟังเพลงภาษาอังกฤษง่ายขึ้น
2.เลือกเพลงให้เหมาะสม
เลือกเพลงที่ชอบ จะช่วยให้เราจดจ่อกับการฝึกได้นานขึ้น ควรเริ่มจากเพลงป็อป เพราะส่วนใหญ่เป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรัก ใช้คำศัพท์ง่าย ๆ ซ้ำ ๆ ลองฝึกฟังทุกวัน เมื่อมีความชำนาญขึ้น จึงค่อยขยับไปฝึกแนวเพลงอื่น ๆ
3.ฝึกอย่างเป็นขั้นตอน
การอ่านเนื้อเพลงไปด้วย จะทำให้เข้าใจความหมายของเพลงและจำคำศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น การฟังในครั้งแรก ๆ ลองฟังแบบไม่เปิดเนื้อเพลงก่อน แล้วพยายามเขียนคำศัพท์หรือประโยคในเพลงออกมา จากนั้นจึงค่อยฟังซ้ำและเปิดเนื้อเพลงตามไปด้วย
4.ร้องตามอย่างเต็มเสียง
ใครที่ขี้อายกลัวเสียงไม่ดี เราขอแนะนำให้ไปร้องในห้องน้ำ หรือแอบร้องคนเดียวในห้อง เวลาร้องไห้ร้องอย่างเต็มเสียง และขยับปากเต็มที่เพื่อเป็นการฝึกกล้ามเนื้อริมปาก ฝึกบ่อย ๆ สำเนียงของเราจะมีความใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้น

5.พยายามร้องจากความจำ
ขั้นนี้ถือเป็นขั้นของคนที่ฝึกภาษาอังกฤษมาสักระยะหนึ่ง เริ่มจดจำเนื้อร้องของบางเพลงได้แล้ว ว่าง ๆ ลองฮัมเพลงเป็นภาษาอังกฤษแบบไม่ดูเนื้อร้อง จะช่วยให้เราคุ้นชินกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้น
6.ฟังเพลงสลับไปมา
ไม่จำเป็นว่าคุณต้องฝึกโดยใช้เพลงเดิมซ้ำ ๆ อยู่แค่เพียงเดียว ลองหาเพลงใหม่ ๆ ฟังสลับไปมา แล้วดูเนื้อเพลงตามไปด้วย ฝึกจดคำศัพท์และเขียนเนื้อเพลงอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ภาษาอังกฤษของคุณกระเตื้องขึ้นมาแบบสุด ๆ

7.ค้นหาเพลงใหม่ที่ยากขึ้น
ปิดท้ายกันด้วย การเพิ่มเลเวลความยากให้ตัวเอง โดยการลองเลือกเพลงที่ระดับยากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณได้พบคำศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น แถมยังเป็นการฝึกภาษาชั้นดี ลองทำทุกวัน แล้วคุณจะเห็นพัฒนาการตัวเองที่ก้าวกระโดดจนน่าตกใจ
การฝึกภาษาอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องหักโหมฝึกฝนทุกวัน ให้แบ่งเวลาวันละ 1-2 ชั่วโมงก็เพียงพอ
แต่ต้อง ห้ามท้อแท้หรือล้มเลิกเด็ดขาด อดทนอีกไม่นานเกินรอภาษาอังกฤษจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
*********************
สนใจติดตามข้อมูลอ่านต่อได้ที่